เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2568 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีกลุ่มหนึ่งว่า พบเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.หัวสำโรงเกตเวย์ ถนน 331 อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสังเกตเห็นว่า เด็กชายคนดังกล่าวใส่ชุดนักเรียน แต่ดูมอมแมมผิดปกติ จึงได้เข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะพบกับความจริงที่น่าตกใจ
เด็กชายคนดังกล่าวชื่อน้องปอนด์ อายุเพียง 13 ปี เป็นนักเรียนชายชั้น ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยน้องเล่าว่าเพิ่งย้ายมาอยู่กับแม่ที่ อ.แหลมฉบัง ได้ประมาณ 5 เดือน ชีวิตไม่ได้มีปัญหาอะไร ทั้งกับครอบครัวและกับเพื่อนที่โรงเรียน แต่น้องคิดถึงคุณยายที่เลี้ยงดูมา เมื่อเช้าตอน 05.00 น. จึงปั่นจักรยานออกจากบ้านที่แหลมฉบังเพื่อไปหาคุณตาคุณยาย
ในตอนแรกน้องบอกว่า คุณตาคุณยายอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่จะสารภาพภายหลังว่า ที่แท้แล้วบ้านของคุณตาคุณยายที่ต้องการจะไปอยู่ไกลถึง อ.นาฉลวย จ.อุบลราชธานี จากการตรวจสอบดูกระเป๋าเป้ที่น้องสะพายติดตัวมาด้วย พบว่าข้างในมีเปลผ้า หนังสือเรียน ขลุ่ย และไม้ปิงปองเท่านั้น
นอกจากนี้ น้องยังยอมรับว่า ไม่มีเงินติดตัวออกจากบ้านมา แต่ก่อนหน้านี้เจออุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวจนจักรยานล้ม ทำให้เสื้อผ้ามอมแมม โชคดีที่น้องปอนด์ไม่ได้รับบาดเจ็บ ทางคนขี่รถจักรยานยนต์ได้ให้เงินไว้ 100 บาท น้องจึงได้ซื้อข้าวกิน 40 บาท เหลือติดตัวอีก 60 บาท
จากนั้น บรรดาผู้ใหญ่ที่ให้ความช่วยเหลือ ได้ติดต่อ พ.ต.อ.ปรีชา นิสัยสม ผู้กำกับ สภ.แปลงยาว ให้ช่วยดูแลกรณีของน้องปอนด์ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สายตรวจได้มารับน้องปอนด์ไปพักที่โรงพัก ระหว่างรอติดต่อแม่ พ่อเลี้ยง รวมถึงคุณตาคุณยายของน้อง เพื่อส่งน้องให้กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ที่อยู่ในปั๊มน้ำมันที่ได้รับฟังเรื่องราวของน้องปอนด์ ก็ได้มอบเงินให้น้องด้วยความเมตตา รวมแล้วกว่า 2,000 บาท เพื่อให้น้องได้ใช้จ่ายและเป็นทุนศึกษาเล่าเรียนต่อไป